‘praenomen’ หรือชื่อบัลลังก์ของ Ramses II
อาจอธิบายว่าเขามีความแข็งแกร่ง เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ ผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในเทพแห่งดวงอาทิตย์ Re การเขียนรูปแบบอื่นๆ อีกมากมาย ตั้งแต่แบบฟอร์มไปจนถึงสคริปต์การออกเสียงภาษาญี่ปุ่น มีอยู่ใน The Story of Writing: Alphabets, Hieroglyphs & Pictograms โดย Andrew Robinson (Thames & Hudson, 9.95 ปอนด์)
ชาวอียิปต์โบราณมีอักษรของตนเอง ซึ่งเรียกว่าอักษร ฮีโรกลีฟิค (Hieroglyphic) ซึ่งคำว่า ฮีโรกลีฟิคนี้ เป็นชื่อที่ชาวกรีกเรียกเครื่องหมายราณที่ปรากฏอยู่ตามโบราณสถาน สุสาน หีบศพ และตามรูปแกะสลักต่างๆ
ความหมายของคำนี้คือ “อักษรศักดิ์สิทธิ์” ทั้งนี้ก็เพราะในสมัยที่ชาวกรีกติดต่อสัมพันธ์กับชาวอียิปต์นั้น ชาวอียิปต์นี้ใช้อักษรชนิดนี้สำหรับบันทึกเรื่องราวทางศาสนาและพิธีกรรมต่างๆ
ในตอนแรกเวลาชาวอียิปต์จะเขียนหรือแกะสลักภาษาฮีโรกลีฟิคบน กระดาษปาปิรุส หรือบนผนังหินในสุสาน พวกเขาก็จะพยายามแกะสลักรูปภาพต่างๆ อย่างประณีตบรรจง เพราะนอกจากจะได้เนื้อความทางภาษาแล้ว ภาษาของพวกเขายังดูสวยงามใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่งไปด้วยในตัว แต่ในระยะหลังเมื่อพวกเขามีความเป็นอยู่และวิถีชีวอตที่วุ่นวายซับซ้อนมากขึ้น พวกเขาก็ไม่มีเวลาที่จะมานั่งประดิดประดอยภาษารูปภาพของตนให้สวยงามดังแต่ก่อน
โดยเฉพาะเวลารีบๆ เขียนหนังสือลงบน
กระดาษปาปิรุสด้วยปากกาทำด้วยต้นกกนั้น พวกเสมียนที่ทำหน้าที่เขียนจะต้องดัดแปลงอักษรบางตัวให้เขียนได้สะดวกยิ่งขึ้น เหตุนี้ทำให้รูปของอักษรเปลี่ยนแปลงไปเป็น อักษรตวัด ซึ่งเรียกว่า อักษรแบบ ฮีราติค (Hieratic)
ในระยะแรกอักษรชนิดนี้ก็ไม่แตกต่างจากอักษร ฮีโรกลิฟิคมากเท่าใดนัก เพียงแค่มีการใช้เครื่องหมายย่อๆ มากขึ้น และเขียนตัวอักษรหวัดขึ้น ทว่าในระยะหลัง อักษรแบบฮีราติคนี้ก็มีแบบและหน้าตาแปลกออกไปเป็นของตัวเองโดยเฉพาะ คงเหลือแต่เค้าให้เห็นว่ามีบางสิ่งบางอย่างคล้ายคลึงกันกับอักษร ฮีโรกลิฟิคเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ต่อมาอักษรแบบ ฮีราติค ก็เปลี่ยนไปอีก คราวนี้กลายเป็นภาษาที่เรียกว่า เดโมติค (Demotic) ภาษาเขียน เดโมติค นี้เป็นภาษาที่กลายไปมากจนมองไม่เห็นเค้าของภาษา ฮีโรกลิฟิค อันเป็นต้นเค้าของเดิมอีกเลย
และมีใช้กันในอาณาจักรอียิปต์ตั้งแต่สมัยแปดร้อยปีก่อนคริสตกาล จนถึงยุคโรมันเรืองอำนาจ ภาษาเดโมติคกลายเป็นภาษาที่ใช้กันทั่วไปทั้งในด้านธุรกิจ การค้า และการติดต่อสื่อสาร ทั่วไป ส่วนภาษาแบบเดิมคือ ภาษาฮีโรกลิฟิค และภาษา ฮีราติค นั้น ก็พอจะมีใช้อยู่บ้างในระยะนั้น แต่ทั้งสองภาษานี้ถูกเก็บไว้ใช้เป็นภาษาสำหรับพิธีทางศาสนา โดยพวกพระและพวกนักเขียนจารึกประจำศาสนสถานเท่านั้น
หากภาษาอียิปต์ไม่ได้สูญสิ้นไปหมดเสียทีเดียว เพราะคำและสำเนียงต่างๆ ของภาษาได้สืบตกทอดกลายมาเป็น ภาษาคอปติค ซึ่งใช้เขียนด้วยตัวอักษรกรีก และผสมกับอักษรเดโมติคอีก 7 ตัว
ภาษานี้ยังมีใช้พูดกันอยู่ในบรรดาชาวคริสเตียน ที่สืบเชื้อสายมาจากชาวอียิปต์โบราณ ภาษาคอปติค มีบทบาทสำคัญมาก ในการแปลภาษาอียิปต์โบราณ และจากการที่มีภาษาใช้เป็นของตนเองนี้เอง ที่ทำให้เราสามารถทราบประวัติศาสตร์อันน่าสนใจของชาวอียิปต์โบราณได้ เพราะชาวอียิปต์เป็นผู้ที่ชอบจารึกเรื่องราวของตนเอง
อักษรอียิปต์โบราณ
ชาวอียิปต์ปรับปรุงแบบของการเขียนแรกเริ่มของตนได้ในสมัยก่อนราชวงศ์ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า เฮียโรกลิฟิค (Hieroglyphic)
มาจากคำภาษากรีกแปลว่าการแกะสลักอันศักดิ์สิทธิ์ อักษรทีใช้มีรูปเป็นภาพสลักบนหินด้วยเหล็กแหลม
มีการประกอบตัวอักษรเข้าด้วยกันให้เป็นคำในสมัยราชอาณาจักรเก่า ในที่สุดก็มีตัวอักษร 24 ตัว
ด้วยเหตุฉะนี้ระบบการเขียนแบบเฮียโรกลิฟิคจึงประกอบด้วยอักษร 3 ประเภทคือ ที่เป็นรูปพยางค์ และเป็นลำดับตัวอักษร
ชาวฟินีเซียเป็นผู้มีชื่อเสียงได้นำเอามาผสมกัน ในอีก 1,500 ปีต่อมา แต่อียิปต์ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ประดิษฐ์หลักการใช้ตัวพยัญชนะมาก่อนชาติใด ๆ ในโลกตะวันตก
นอกจากนั้นชาวอียิปต์ยังได้ประดิษฐ์ระบบการเขียนขึ้นอีก 2 แบบ แบบหนึ่งเรียกว่า
1. อักษรเฮียราติค (Hieratic) ซึ่งใช้เขียนในวงการธุรกิจทั่ว ๆ ไป
2. อักษรเดโมติค (Demotic) เป็นตัวอักษรที่เขียนอ่านง่ายกว่าอักษรเฮียราติค จึงได้รับการนิยมอย่างแพร่หลายกว่าตัวอักษรเฮียราติค
ในช่วงที่อียิปต์โบราณรุ่งเรือง 2000 กว่าปีนั้น อักษรภาพไฮโรกลิฟ ได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัย
ต่อมาชาวอียิปต์โบราณเห็นว่าการเขียนแบบไฮโรกลิฟนั้น ไม่กระชับ จึงพัฒนาสัญลักษณ์แบบ ไฮราติก (Hieratic) ขึ้น
ตัวเลขแบบไฮราติกนั้น ต้องใช้ความจำมากขึ้น เพราะมีสัญลักษณ์ทั้งหมด 36 ตัว (จากเดิมที่มีอักษรภาพเพียง 7 ตัว)
แต่ข้อดีก็คือ เมื่อนำไปเขียนเป็นตัวเลข วิธีใหม่นี้สามารถลดจำนวนสัญลักษณ์ลง จากเดิมตัวเลข 9,999 ต้องใช้อักษรภาพ 36 ตัว
ก็เหลือใช้สัญลักษณ์แบบไฮราติก เพียง 4 ตัวเท่านั้น สำหรับข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่าง สัญลักษณ์แบบไฮราติก และระบบจำนวนที่พวกเราใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั้นก็คือ
ตำแหน่งของสัญลักษณ์แบบ ไฮราติก ไม่มีผลต่อค่าของตัวเลข ระบบเลขของชาวอียิปต์โบราณเป็นระบบเลขไม่มีหลัก เพราะไม่ว่าจะเขียนสัญลักษณ์ไว้ที่ตำแหน่งใดก็มีค่าคงที่เสมอ เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์